เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ร่างของสเตฟัน [Stephan] อายุ ๒๖ ปีถูกพบในน่านน้ำเกาะภูเก็ต
ของประเทศไทยห่างจากชายฝั่ง ๕๐๐ เมตร
สเตฟัน [Stephan] ไปเที่ยวพักผ่อนวันหยุดที่ประเทศไทยกับเพื่อนร่วมทำธุรกิจคือ ซิลฟาโน [Sylvano] วันหยุดพักผ่อนไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น ในช่วงวันแรกๆ สเตฟัน [Stephan] เกิดไปกระทบกระทั่งกับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียโดยบังเอิญ ผลจากการนั้นชาวออสเตรเลียผู้นั้นได้เอาขวดวิสกี้ฟาดไปที่หน้าของสเตฟัน [Stephan] ซิลฟาโน [Sylvano] เข้าช่วยเพื่อนและเล่นงานชาวออสเตรเลียคนนั้น หลังจากนั้น สเตฟัน [Stephan] ถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลและต้องนอนรักษาตัวที่นั่นหนึ่งสัปดาห์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เกิดความตึงเครียด คืนหลังจากที่สเตฟัน [Stephan] ออกจากโรงพยาบาลก็ถูกพบว่าเขาเป็นศพแล้ว จากการสอบสวนของทางฝ่ายไทยพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของเขาสูงมากและมีบาดแผลลึกที่ศีรษะซึ่งอาจจะเนื่องมาจากโดนใบพัดเรือ ผลการพิสูจน์ทางการแพทย์ได้ข้อสรุปที่ยังคลุมเครืออยู่ กล่าวคือ สาเหตุการตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจหรือเนื่องจากจมน้ำ ทางตำรวจไทยได้สรุปว่าเป็น การฆ่าตัวตาย ทางครอบครัวไม่เชื่อในเรื่องนี้และหลังจากที่ร่างของเขามาถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ทางการสอบสวนของเนเธอร์แลนด์จึงมีการชันสูตรกันอีกครั้งและพบร่องรอยบาดแผลมากกว่าที่ปรากฏอยู่ในรายงานก่อนหน้านี้ เช่น กระโหลกศีรษะร้าวและข้อเท้าหักซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันต่อทางครอบครัวว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของการฆ่าตัวตาย
สเตฟัน [Stephan] เติบโตมาในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น เขาสนิททั้งกับมารดาของเขา คือ บริจิต [Brigitte] และกับน้องสาว คือ โอเด็ต [Odette] สเตฟัน [Stephan] เป็นวิศวกรและนักบริหาร งานธุรกิจและทำงานในกิจการของตนเอง เขาเป็นคนหนุ่มที่กระตือรือล้นและชอบช่วยเหลือผู้อื่น
เขากับเพื่อน คือ ซิลฟาโน [Sylvano] ก่อตั้งบริษัทของตัวเองร่วมกัน สเตฟัน [Stephan] ชอบเดินทางท่องเที่ยวและมาเที่ยวประเทศไทยหลายครั้งแล้ว
ในปีพ.ศ. ๒๕๕๘ ครอบครัวของสเตฟัน [Stephan] เดินทางไปภูเก็ตกับจอห์น ฟัน เด็น เฮอเฟิล [John van den Heuvel] ในรายการ ฆาตกรรมในต่างประเทศ เพื่อค้นหาคำตอบ พวกเขาได้พูดคุยกับหลายๆคนรวมทั้งทางตำรวจไทยซึ่งไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าใดนักโดยแจ้งว่าแฟ้มคดีหายไปเนื่องจากน้ำท่วม และไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออื่นใดได้อีก ยามชายหาดซึ่งเป็นคนที่เอาร่างของสเตฟัน [Stephan] ขึ้นมาจากน้ำบอกว่าตอนกลางคืนไม่มีเรือแล่น ดังนั้นบาดแผลที่ศีรษะของสเตฟัน [Stephan] ไม่น่าจะมาจากสาเหตุดังกล่าว แพทย์พยาธิวิทยาแจ้งว่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของสเตฟัน [Stephan]เป็นศูนย์ซึ่งตรงข้ามกับรายงานชันสูตรพลิกศพ ภาพจากกล้องวงจรปิดหลายภาพแสดงให้เห็นว่าสเตฟัน [Stephan] เดินอยู่กับซิลฟาโน [Sylvano] พักหนึ่งก่อนที่จะเดินคนเดียวและง่วนอยู่กับการพูดโทรศัพท์ที่ประเทศไทย ฟัน เด็น เฮอเฟิล [John van den Heuvel] ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลนิรนามแจ้งเบาะแสว่าสเตฟัน [Stephan] ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้ว่าหลังจากไปภูเก็ตครั้งนั้นยังไม่สามารถหาคำตอบสำหรับคดีได้แต่ทางครอบครัวได้มีความกระจ่างชัดมากขึ้น
ชีวิตของบริจิต [Brigitte] และโอเด็ต [Odette] หยุดนิ่งนับตั้งแต่เกิดกรณีฆาตกรรมสเตฟัน [Stephan] พวกเขารู้สึกว่าคดีนี้ยังไม่ได้รับการจัดการอย่างเอาจริงเอาจังและยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องสอบสวนต่อทั้งจากทางประเทศเนเธอร์แลนด์ด้วยถึงแม้ว่าจะเป็นคดีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศก็ตาม พวกเขารับไม่ได้ว่ายังมีบุคคลอื่นๆ/พยานบุคคลอีกหลายคนที่มีข้อมูลเบาะแสแต่ยังไม่ได้พูดออกมา ดังนั้นทางครอบครัวจึงรณรงค์เรียกร้องในเรื่องนี้